ให้เวลากับตัวเอง คืออะไร สำคัญอย่างไร
เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2019 ที่โลกของเราเผชิญกับไวรัสตัวร้ายโควิด19 เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากในทุกๆ ด้าน การมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต ยิ่งเฉพาะช่วงที่สภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงมากแล้ว ดังนั้นจึงสำคัญมากที่เราฝึกจิตใจของเราให้แข็งแกร่ง ซึ่งถ้าหากเรา search ในอินเตอร์เน็ตเราก็จะได้คำตอบหลายรูปแบบ แต่คำถามคือวิธีไหนที่ง่ายที่สุด ? โดยที่ไม่ต้องพึ่งยารักษา หรืออุปกรณ์อะไร นั้นก็คือ การมีเวลาให้กับตัวเอง การมีเวลาให้กับตัวเองนั้นสำคัญกับการมีสุขภาพร่างกายของเรามาก เพราะมันช่วยให้ร่างกายและจิตใจของเราได้ฟื้นฟูไปในทางที่ดีขึ้น
ก่อนอื่นแอดมินขออธิบายความหมายของ การให้เวลากับตัวเองหรือ “Me” time ก่อน ซึ่ง “Me” time นั้นไม่ได้แปลว่าตรงตัวว่า มีเวลาแต่ความหมายของมันจริงๆ ของ “Me” time คือ การใช้เวลาอยู่กับตัวเอง หยุดสนใจโลกภายนอก การใช้เวลาอยู่กับตัวเองเป็นการช่วยฟื้นฟูอารมณ์ ร่างกาย และจิตใจของเราได้ดี โดยไม่ต้องกินยาได้เลยหละ และตอนนี้แอดมินกำลังจะนำเสนอ 5 วิธีในการใช้เวลากับตัวเองแบบง่ายๆ นั้นมีอะไรบ้าง:
5 วิธีการให้เวลากับตัวเอง:
1.ฟังเพลง ร้องเพลง
การฟังเพลงและร้องเพลงไปด้วยเป็นการใช้เวลากับตัวเองอย่างหนึ่งที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา การฟังเพลงและร้องเพลงไปด้วยทำให้คุณอยู่โฟกัสอยู่กับปัจจุบันและลืมกังวลที่เกี่ยวกับเรื่องในอดีตและอนาคตได้ชั่วขณะ แอดมินเป็นคนนึงที่ชอบการร้องเพลงมากโดยเฉพาะเวลาอาบน้ำเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์และทำให้รู้สึกมีความสุขด้วย
ผลงานวิจัยของนักวิจัยจากประเทศสวีเดน (Monica Thomasson,1999) ได้แสดงให้เห็นว่าการร้องเพลงสามารถลดความเครียดได้ เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า ออกซิโตซิน (Oxytocin) เป็นฮอนโมนที่หลั่งจากสมองช่วยรักษาอาการวิตกกังวล ความกังวลที่ทำให้เรารู้สึกเครียดและไม่มีความสุข นอกจากนี้การร้องเพลงช่วยบริหารปอดด้วย ดังนั้นการร้องเพลงนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจของเรา ไอเดียเนี้ยก็ได้การยืนยันจากผลงานวิจัยของนักวิจัยชาวอังกฤษอีก โดยในงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการฟังเพลงและร้องเพลงนั้นมีประโยชน์ทั้งสุขภาพกายและใจ ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่กล่าวว่าการร้องเพลงสามารถควบคุมการหายใจได้ดีขึ้น และผู้เข้าร่วมการทดลองยังบอกอีกว่าการร้องเพลงทำให้ตื่นตอนเช้าแล้วรู้สึกสดชื่น ส่วนทางด้านจิตใจผู้เข้าร่วมวิจัยกล่าวว่า การร้องเพลงทำให้มีความสุขและคิดบวกมากขึ้น ช่วยลดความเครียด ดังนั้นถ้าว่างๆ ก็อย่าลืมหาเวลาฟังเพลงและร้องเพลงกันด้วยน้าเราจะได้บริหารปอดและให้เวลากับตัวเอง
แนะนำ app สำหรับร้องคาราโอเกะ: https://www.makeuseof.com/best-free-karaoke-apps/
[scroll_to title=”2″ link=”#section2″]
2.นั่งสมาธิ
ปัจจุบันนี้การนั่งสมาธิเป็นที่นิยมในประเทศแทบตะวันตกเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีผลงานวิจัยทางวิทยศาสตร์ตีพิมพ์ออกมาเยอะมากเกี่ยวกับประโยชน์ของการนั่งสมาธิ การนั่งสมาธิคือการกำหนดลมหายใจเพื่อให้สมองของเราอยู่กับปัจจุบัน โดยนิยามของการนั่งสมาธิอธิบายเข้าใจง่ายมากๆ ในสารคดีของ Netflix ชื่อว่า Headspace guide to meditation
Youtube: https://www.youtube.com/watch?v=H77PL7SlI1M
จากที่แอดมินดูแล้ว สารคดีอธิบายเข้าใจมากโดยการเปรียบการนั่งสมาธิกับหลายสิ่ง หลายอย่างรอบๆ ตัวเรา และมีหลักวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถืออีกด้วย หนึ่งในตัวอย่างที่รายการนี้หยิบยกมาให้เราเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการทำงานของสมองเราก็คือ การเปรียบเทียบความคิดเราเหมือนกับถนนที่มีรถหลายๆ คันวิ่งอยู่ สมองของเราเปลี่ยนเหมือนถนน ที่เต็มไปด้วยรถยนต์วิ่งอยู่ในถนนไม่หยุดหย่อน รถยนต์ คือ ความคิดของเรานั้นเองที่แล่นอยู่ตลอดเวลา การนั่งสมาธินั้นจะช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบันได้และเอาชนะความคิดที่ไหลมาอย่างต่อเนื่องในสมองของเราได้
การนั่งสมาธินั้นเปรียบเหมือนการเข้าใจการทำงานของสมอง เมื่อเราเข้าใจการทำงานของสมองแล้วนั้นจะทำให้เราสามารถอยู่กับปัจจุบัน และโฟกัสในสิ่งที่ทำอยู่ได้
ในความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน แอดมินคิดว่า ดูรายการนี้มันทำให้เรารู้ได้ว่าในทุกๆ วัน เราปล่อยให้ความคิดครอบงำเราเลยบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่มีความสุข เราดำเนินชีวิตและปล่อยให้ความคิดเราทำงานแบบ autopilot อยู่ตลอดเวลา ปล่อยให้สมองครอบงำอารมณ์ของเรา ดังนั้นการนั่งสมาธิใช้เวลากับตัวเองจะช่วยให้เราสามารถรู้ทันความคิดของเราได้ สรุปคือ การนั่งสมาธิทำให้จิตใจเราสงบและเมื่อเราจิตสงบมันทำให้เราสามารถจัดการกับอารมณ์ ความรู้สึกของเราได้ หรือเข้าใจง่ายๆ คือ การนั่งสมาธิช่วยให้เรารู้เท่าทันความคิดเราได้นั้นเอง
3.เล่นพิลาทิส
การเล่นพิลาทิสนั้นเป็นที่นิยมหมู่มากในปัจจุบัน เพราะพิลาทิสเป็นการออกกำลังกายแบบใช้กล้ามเนื้อทุกสัดส่วน ดังนั้นการเล่นพิลาทิสเป็นอะไรที่ประหยัดเวลามากออกครั้งเดียว ได้กล้ามเนื้อทุกมัดเลย ตามที่คนคิดค้นการออกกำลังกายแบบพิลาทิสได้กล่าวไว้:
Pilates: “No muscle left behind”
เนื่องจากการเล่นพิลาทิสไม่ได้แค่สร้างความยืนหยุนและความเคลื่อนไหวให้แก่ร่างกายแล้ว แต่ยังช่วยลดอาการปวดเรื่อยรังและยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย (Posadzki,2011) เมื่อเราเล่นพิลาทิส เราเรียนรู้ที่จะใช้กล้ามเนื้อแกนกลาง และผลพลอยได้ของการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางคือ ทำให้ระบบประสาทของเราทำได้ดีขึ้น การที่เรามีระบบประสาททำงานได้ดีขึ้นทำให้ความเครียดลดลง (Hibbs et al, 2008)
ร่างกายจะสามารถต่อสู้กับฮอนโมนความเครียดได้ดีขึ้น ดังนั้นการพิลาทิสไม่ได้ช่วยแค่หุ่นดีอย่างเดียว แต่ทำให้เราอารมณ์ทั้งภายในและภายนอก เรียกง่ายๆ ว่าเล่นพิลาทิสทีได้ประโยชน์หลายอย่างเลย
สนใจเล่นพิลาทิสฝั่งธนบุรี ใจกลางกรุงเทพติดต่อเราได้ เพียงคลิ๊ก: https://lin.ee/I1aoTlu
4.อ่านหนังสือ
หัวข้อนี้อาจจะฟังน่าดูน่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ชอบการอ่านหนังสือ แต่ความจริงแล้วคุณอาจจะยังไม่เจอหนังสือที่ใช้ก็เป็นได้ เหมือนแอดมินแต่ก่อนเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือแต่พอเจอหนังสือที่เขียนสนุกแล้วติดใจขึ้นมาเลย เช่นเรื่อง Little Price หนังสือในตำนานที่ได้รับหลายรางวัล เขียนโดนนักเขียนชาวฝรั่งเศษ น่าปกหนังสือเหมือนหนังสือ เด็กแต่ความจริงแล้วแอดมินว่าเหมาะสำหรับ วัยรุ่นที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่หรือผู้ใหญ่ที่กำลังเหนื่อยล้ากับโลกใบนี้ หนังสือสะท้อนถึงชีวิตได้เป็นอย่างดี เป็นหนังสือชื่อดังมากๆ ลองไปเริ่มอ่านกันได้เลย แล้วคุณจะตกหลุมรัก ขอบอกเลยหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่แอดมินอ่านจบเล่ม เพราะมันสั้นกระชับ แต่ความหมายลึกซึ้งมาก สเน่ห์ของหนังสือคือ ทุกช่วงอายุที่เราหยิบมาอ่าน เราจะตีความหมายต่างกันเรื่อยๆ แนะนำเลยค่ะ
Youtube:https://www.youtube.com/watch?v=7LmG1Xzq3NE โดย The Standard Thailand
การอ่าหนังสือช่วยทำให้เรารู้สึกสงบ ใช้เวลากับตัวเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการอ่านหนังสือนั้นพัฒนาสมองเราอย่างมาก ช่วยพัฒนาความจำคำศัพท์ การคิดวิเคราะห์ และ สมาธิอีกด้วย การอ่านนั้นสามารถทำที่ไหนก็ได้สามารถเป็นหนังสือพิมพ์ แมกกาซีน เพียงแค่หยิบขึ้นมาอ่าน ใช้เวลากับตัวเอง
แนะนำเวปไซต์สำหรับนักอ่าน: https://bookwritten.com/where-to-read-books-for-free-online-websites/2489/
5.ทำอาหาร
ทำอาหารทานเองกับซื้ออาหารจากร้านอาหาร ความรู้สึกนั้นต่างกันมากเลย จริงอยู่ที่เราซื้ออาหารกินเองนั้นสะดวกสบาย และประหยัดเวลา แต่การทำเองอาหารนั้นมีประโยชน์ในหลายๆอย่างเลยเพราะ การทำอาหารทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพราะเราได้ลงมือปรุงและทำอาหารด้วยสองมือของเราเอง ดังนั้นการทำอาหารทำให้เรารู้สึกภูมิใจ ประเด็นที่แอดมินกำลังจะสื่อก็คือ การทำอาหารนั้นเป็นศิลปะการบำบัดจิตใจของเราชนิดนึง เพราะการทำอาหารทำให้เรา focus กับปัจจุบันมากขึ้น เช่น การหั่นผัก ถ้าเราไม่ focus มีดอาจจะบาดมือก็เป็นได้ นอกจากนี้การทำอาหารยังดีต่อร่างกายเราสามารถเลือกวัตถุดิบ เลือกปริมาณอาหาร ที่มีประโยชน์กับร่างกายเราได้ ดังนั้นการทำอาหารนั้นดีต่อใจและร่างกายเรา
การทำอาหารเป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้ได้เราสามารถเริ่มทำจากเมนูง่ายๆ และค่อยไปยากก็ได้ เพราะเดียวเราอาจจะรู้สึกท้อ ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายช่องข่าวสารที่เราสามารถเรียนรู้จากมันได้เช่น Youtube,Google และอื่นๆ อีกมากมาย อย่าลืมทำอาหารให้คนที่คุณรักและเพื่อตัวคุณเองด้วย Self-love is important !
แนะนำโรงเรียนสอนทำอาหาร: https://fiercebook.com/articles/4726
ตามที่กล่าวไปด้านบน ลองนำไปปรับใช้ดูในแต่ละวัน 5-10 นาที เพียงแค่เวลาสั้นๆ ก็ดีต่อใจของเราแล้ว ไม่ต้องเสียเงินหรือใช้อุปกรณ์ใดๆ และสามารถทำที่ไหนก็ได้ การให้เวลากับตัวเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และถือเป็นการดูแลตัวเองชนิดนึง และเมื่อเราดูแลตัวเองได้ดี นั้นหมายถึงเราได้ดูแลคนรอบข้างของเราไปด้วยเช่นกัน
สรุปที่เรานำเสนอมาทั้งหมดนี้จุดประสงค์คืออยากสนับสนุนให้ทุกคนมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นเพราะการดูแลตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพจิตใจของเรา และเราเชื่อว่าเมื่อเรามีสุขภาพจิตที่ดี ไม่ว่างาน หรือการใช้ชีวิตจะยากลำบากแค่ไหนเราจะสามารถมีพลังต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ต่อไปได้ การมีเวลาดูแลตัวเองนั้นเป็นเหมือนการชาตพลังชีวิต เพื่อให้เราดำเนินชีวิตต่อไปได้ การดูแลตัวเองนั้นเป็นเรื่องพลังจากภายในของเราที่ส่งออกไปสู่ภายนอก เช่น ภาพลักษณ์ บุคคลิคภาพ ของเราหากเราขาดสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้เราดูเป็นคนที่ไม่มีชีวิตชีวา หมดพลัง ที่จะต่อสู้กับเรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นอย่าลืมหาเวลาว่างให้ตนเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพของเรากันค่ะ
อ้างอิงข้อมูลจาก:
- Thomasson M, Sundberg J. Consistency of phonatory breathing patterns in professional operatic singers. J Voice. 1999;13:529–541. [Epub 2000/01/ 06]; PubMed PMID: 10622519
Kang, Jing & Scholp, Austin & Jiang, Jack. (2017). A Review of the Physiological Effects and Mechanisms of Singing. Journal of Voice. 32. 10.1016/j.jvoice.2017.07.008
Stephen Clift (2002) The Journal of the Royal Society for the Promotion of Health 121(4):248-56 DOI:10.1177/14664240011210040
Pilates for low back pain: A systematic review Paul Posadzki a,*, Pawel Lizis b , Magdalena Hagner-Derengowska
Hibbs, Angela & Thompson, Kevin & French, Duncan & Wrigley, Allan & Spears, Iain. (2008). Optimizing Performance by Improving Core Stability and Core Strength. Sports medicine (Auckland, N.Z.). 38. 995-1008. 10.2165/00007256-200838120-00004. - Atsbeha, Berhanemeskel. (2021). Review on the Importance of Self-care in Health. Academia Letters. 10.20935/AL3294.
- Jaarsma, Tiny & Strömberg, Anna & Dunbar, Sandra & Fitzsimons, Donna & Lee, Christopher & Middleton, Sandy & Vellone, Ercole & Freedland, K.E. & Riegel, Barbara. (2020). Self-care research: How to grow the evidence base?. International Journal of Nursing Studies. 105. 103555. 10.1016/j.ijnurstu.2020.103555.